วันเสาร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ไทยโชว์ตอน นักเลงเพลงบอก กลอนศิลป์ถิ่นเมืองใต้




ข่าวประชาสัมพันธ์ไทยโชว์
คมสันต์ ไทยโชว์ พาไปลุยถิ่น นักเลงเพลงบอก นครศรีฯ อาทิตย์ 7 มีนาคมนี้
คมสันต์ สุทนต์ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ พาหนีร้อนรับลมทะเลใต้ ลุยถิ่นนักเลงเพลงบอก นครศรีธรรมราช พบบอกสมใจ ศรีอู่ทอง แม่เพลงสุดยอดมุตโต ร้องด้นสดได้ดังใจนึก และเข้าป่าชายเลนค้นหาช้างเผือกเพลงบอกเยาวชนเชือกน้อย เมืองปากพนัง

คมสันต์ สุทนต์ เล่าให้ฟังว่า
“เพลงบอกเป็นเพลงพื้นบ้านที่นิยมเล่นกันมากในทางภาคใต้ โดยเฉพาะแถบจังหวัดนครศรีธรรมราช
เรียกกันว่าเป็นถิ่นของนักเลงเพลงบอกเลยกันทีเดียว...สมัยก่อนแม่เพลง ที่เป็นนักร้องต้นเสียงจะเป็นหญิงหรือชายก็ให้เกียรติเรียกว่าแม่เพลงเหมือนกัน ก็จะร้องกันคราวหน้าสงกรานต์เพื่อบอกป่าวประกาศให้ชาวบ้านร้านถิ่นว่าปีนี้ นางสงกรานต์จะทรงพาหนะอะไร ใส่เสื้อถืออาวุธอะไร สงกรานต์ปีนี้จะจัดงานกันอย่างไร,ที่ไหน เพราะสมัยก่อนยังไม่มีปฏิทิน แล้วก็มีลูกคู่รับเป็นทำนองเฉพาะ ฟังเผินๆอาจคล้ายร้องโนราห์นะครับ แต่มีที่มาที่ไปต่างกัน เพราะมีข้อสันนิษฐานว่า กลอนเพลงบอกพัฒนามาจาก เพลงเห่หรือเพลงฉะ บางทีก็เรียกว่าแปดบทซึ่งได้รับความนิยมในแถบภาคใต้เกือบ 200 ปีมาแล้ว จนถึงรัชกาลที่ ๕ พระรัตธัชมุนีฯ (พ.ศ.2396- 2477) เจ้าคณะมณฑลนครศรีธรรมราช ซึ่งเดิมท่านเป็นชาวปากพนัง ได้จัดระเบียบกฏเกณฑ์กลอนเพลงบอกขึ้นใหม่ คือจะมีการรับของลูกคู่และอาจแทรกวลีหรือถ้อยคำระหว่างกลอนที่แม่เพลงกำลังว่าอยู่ เพื่อให้ลีลากลอนครึกครื้นสนุกสนานและช่วยแก้ปัญหาแม่เพลงไม่ให้กลอนติดขัดเรียกว่า"ทอยเพลงบอก" ซึ่งเมื่อผมได้พูดคุยกับครูที่เป็นลูกคู่ 3 ท่าน ครูลำดวน บัวจันทร์, ครูศรีเวียง แซ่ภู่, ครูสมควร นาคาชล จึงมั่นใจเลยครับว่า ลูกคู่เพลงบอกมีบทบาทสำคัญมาก “เสมือนปิดทองหลังพระ”ทำให้เพลงมีรสชาติ ปัจจุบันเพลงบอกยังนำไปเล่นในโอกาสอื่นๆ เช่น บอกข่าวประชาสัมพันธ์งานบุญงานกุศล บวงสรวงในพิธีกรรมต่างๆ เพลงบอกร้องชาหรือ บูชาด้วยครับ”

คมสันต์ สุทนต์ พูดถึงบอกสมใจ ศรีอู่ทองว่า
“บอกสมใจ ศรีอู่ทอง หรือครูสมใจ อู่ทอง เป็นนักเลงเพลงบอกชาวปากพนัง ที่มีชื่อเสียงคณะหนึ่งในนครศรีธรรมราช เป็นที่ยอมรับกันถึงความแตกฉานในกลอนแบบด้นสด ที่เรียกกันว่า “มุตโต” เขียนกระทู้ข้อความอะไร ครูสมใจร้องด้นได้ดังใจนึก เลยเป็นเหตุให้ทีมงานไทยโชว์ขอพิสูจน์ว่าจริงตามคำล่ำลือหรือเปล่า
โดยช่วงท้ายของการโชว์ ผมจะให้ครูสมใจเลือกแผ่นป้ายกระทู้ และจะต้องร้องขยายความเนื้อหากระทู้นั้นให้ครบถ้วนภายใน 5 นาที โชว์นี้สนุกแน่ครับ
นอกจากครูสมใจ อู่ทอง จะเป็นศิลปินมืออาชีพตระเวนเล่นเพลงบอกทั่วไทยแล้ว ยังปลีกเวลามาถ่ายทอดเพลงบอกให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่หลายแห่ง หนึ่งในกลุ่มช้างเผือกที่ครูสมใจและลูกคู่การันตีก็คือ น้องๆจากโรงเรียนบ้านบางแรด ปากพนัง ซึ่งทีมงานไทยโชว์ก็ลุยเข้าป่าชายเลนปากพนัง พาน้องๆช้างเผือกบางแรดมาโชว์ที่สตูดิโอไทยโชว์ กรุงเทพฯ รับรองครับว่าบอกไว้ไม่ผิดหวัง เสียงดี แรงดีไม่มีตก....

ถึงแม้ว่าช่วงนี้ครูสมใจจะไม่ค่อยสบาย เพราะเพิ่งถอดเฝือกหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ขาหัก เวลาจะเดินต้องใช้ไม้เท้าพยุงตัว ต้องหยุดพักการแสดงบ้าง แต่ไม่หยุดงานถ่ายทอดจะเล็กหรือใหญ่ไปหมด แม้แต่รายการไทยโชว์ต้องมาบันทึกรายการที่กรุงเทพฯ ครูก็ตอบรับด้วยความเต็มใจ จึงไม่แปลกที่จะยกย่องชื่นชม สมเป็นนักเลงเพลงบอก เมืองนครฯ จริงๆ ครับ”

ถ้าอยากรู้ว่าช้างเผือก เยาวชนปากพนังจะเสียงดีขนาดไหน และเพลงบอกสมใจ ศรีอู่ทอง จะแก้กระทู้ไทยโชว์แบบมุตโตแตกหรือไม่ ต้องชมให้ได้ รายการไทยโชว์ ตอน “นักเลงเพลงบอก กลอนศิลป์ถิ่นเมืองใต้
จ.นครศรีธรรมราช” วันอาทิตย์ที่ 7 มีนาคม 2553 เวลา 18.00 น. ชมรายการย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/Thaishow

วันพุธที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

คมสันต์ สุทนต์ พิธีกรไทยโชว์ เชิญชม “ไทยคิด(ส์) ไทยโชว์” อาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ไทยโชว์
คมสันต์ ไทยโชว์ เชิญชม “ไทยคิด(ส์) ไทยโชว์” อาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์นี้


คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ เชิญชมความสามารถของเยาวชนดนตรีไทยของโรงเรียนดนตรีศรทอง มูลนิธิหลวงประดิษฐไพเราะ(ศร ศิลปบรรเลง) ในโชว์รูปแบบ เครื่องสายไทยผสมดนตรีนานาชาติอย่าง ดานโบ(พิณสายเดียว เวียดนาม), พิณปีกนก-พม่า,กู่เจิง-จีน,ขิมไทยฯลฯ ด้วยเพลงไทยหลากหลายอารมณ์


เพลงความงามแห่งลำน้ำโขง ร้อยเรียงสำเนียงเพลงจีน พม่า ไทย ลาว เวียดนาม เสมือนบรรยายความงามของลำน้ำโขงด้วยเครื่องสายนานาชาติ,เพลงทยอยญวน , เพลงเขมรไทรโยค , เพลงลาวเจ้าซู ๒ ชั้น, เพลงเชิดนอก เดี่ยวขิม ๒ ตัว, เพลงพริกขี้หนู คู่กัด, เพลงเขมรโพธิสัตว์ ๒ ชั้น, เพลงสายหมอกดอกเหมย, เพลงเทพวายุ เป็นการดวลขิมเพื่อแสดงความแม่นยำในการจดจำกระบวนเพลงกันแบบท่อนต่อท่อน

คมสันต์ สุทนต์ เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า
“สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้น้องๆเยาวชนกลุ่มนี้มีความสามารถในการเล่นดนตรีได้ดีก็เพราะได้ครูที่มีความสามารถในการถ่ายทอดสูงอย่างครูตั๊ก – อาจารย์ชนก สาคริก ซึ่งท่านเป็นผู้บุกเบิกซอฟแวร์ช่วยสอนดนตรีของเมืองไทยด้วยครับ... เพราะฉะนั้น ใครที่อยากรู้ว่าซอฟแวร์จะมาช่วยสอนดนตรี หรือจะมาแทนที่ครูสอนดนตรี ไทยโชว์ตอนนี้ครูตั๊ก มีคำตอบให้ครับ”

รายการไทยโชว์ตอน “ไทยคิด(ส์) ไทยโชว์” Uวันอาทิตย์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2553U เวลา 18.00 น.
ชมรายการย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/Thaishow

วันจันทร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

คมสันต์ สุทนต์ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ ชวนพิสูจน์ “มีอะไรในกอไผ่” อาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์นี้



ผ่านมาหนึ่งปีพอดีเป๊ะที่ วงกอไผ่ ในแบบไทยแท้เคยมาเล่นแบ็คอัพให้กับรายการไทยโชว์ตอนขยับกรับขับเสภาและตามหาซอสายฟ้าฟาด วันนี้กอไผ่กลับมาเยือนไทยโชว์อีกครั้งในรูปแบบ ดนตรีไทยร่วมสมัย สนุกเร้าใจเข้มเต็มพิกัด เกินความคาดหมาย


คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ เล่าให้ฟังว่า

“ผมมองว่าเป็นปรากฏการณ์อย่างหนึ่งของวงการดนตรีไทยเลย คือเป็นวงที่รวมตัวกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงเด็กชายเมื่อปี 2522 แล้วก็เข้าประกวดดนตรีฯ ปี 2526 ก็ชนะทั้งวง และทุกเครื่องดนตรีไม่ว่าซอด้วง ซออู้ จะเข้ โทนรำมะนาฯ ก็ชนะทั้งหมด ซึ่งเป็นความสุดยอด แล้วพวกเขาก็ทยอยสร้างสรรค์ผลงานเพลงทั้งในแบบแผน ผสม ประยุกต์ ทดลอง ร่วมสมัย สารพัดที่จะคิดจะทำขึ้นมาแล้วก็สุดแต่ว่าคนฟังจะนิยามรูปแบบที่กอไผ่นำเสนอว่าเป็นแบบไหน...วันนี้เกือบสามทศวรรษ บรรดาศิลปินเด็กน้อยๆกอไผ่ อ.อานันท์ นาคคง(หน่อง)หัวหน้าวง, อ.ชัยภัคภัทรจินดา(นิค), อ.ประสาร วงศ์วิโรจน์รักษ์, อ.อัษฎาวุธ สาคริก(เอ้)ฯ และแตกหน่อให้ศิลปินรุ่นน้องได้ร่วมกอ..อ.เลอเกียรติ มหาวินิจฉัย(อั้ม)มนตรี อ.บรรหาร ปาโล(นุ่ม), อ.อมร พุทธานุ, อ.ทศพร ทัศนะ(ตรี), อ.อัครพล อภิโช(ตั้ม), อ.กฤษฏิ์ เลกะกุล(บ็อบ), อ.ทวีศักดิ์ อัครวงษ์ (เบิ่ง)ฯลฯ ได้เติบโตกล้าแกร่งเป็นศิลปิน เป็นนักวิชาการ เป็นครูบาอาจารย์สร้างชื่อ สร้างผลงานทรงคุณค่าให้สังคมดนตรีไว้มากมาย ..งานดนตรีที่สร้างชื่อ เสมือนปิดทองหลังพระซึ่งคนไทยทั้งประเทศจดจำกันได้ดีก็คือภาพยนตร์เรื่อง โหมโรง ครับ



“การนำเสนอของกอไผ่ ในรายการไทยโชว์ถือว่าพิเศษมากเพราะเป็นการนำดนตรีไทยและดนตรีสากลมาผสมรวมวงเล่นได้อย่างเร้าใจ โดยเริ่มจากเพลงปลายซำเซ เสมือนเป็นการออกแขกเบิกโรงเรียกน้ำย่อย ต่อด้วยเพลงญี่ปุ่นรำพึง เพลงหวานไพเราะที่ครูศร ท่านครูหลวงประดิษฐ์ไพเราะ(ศร ศิลปะบรรเลง)แต่งไว้ และกอไผ่ได้เพิ่มโหมดเสียงเป็นสร้อยเพลงสั้นๆ ให้มีสีสันกลิ่นอายซากุระมากยิ่งขึ้น เพลงที่สามเป็นเพลงไทยอมตะ เพลงค้างคาวกินกล้วย หรือเพลงลิงกับเสือ มีเดี่ยวรอบวง [SOLO] สู้กันสุดฝีมือ ปิดท้ายโชว์ด้วยเพลงชเวดากอง
เพลงสำเนียงพม่า ผลงานสร้างสรรค์ที่ครูบุญยงค์ เกตุคง ศิลปินแห่งชาติได้ฝากไว้ให้กับวงการดนตรีไทย”

คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ กล่าวทิ้งท้ายว่า

“นอกจากโชว์ที่สนุกเร้าใจแล้ว ศิลปินวงกอไผ่ยังได้พูดคุยและให้สาระจุดประกายให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ กล้าคิด กล้าทำเพื่อให้ดนตรีไทยของเรายืนอยู่อย่างสง่างาม...ไม่ว่าจะเป็นดนตรีไทยแบบดั้งเดิม หรือไทยร่วมสมัยก็ตาม และวงกอไผ่น่าจะเป็นต้นแบบของความสามัคคีที่รวมกันเป็นกอ เหมือนกับสิ่งที่สังคมไทยกำลังต้องการ”

มาพิสูจน์กันว่ามีสาระบันเทิงอะไรซ่อนไว้บ้างในกอไผ่ ร่วมผ่าปล้องพร้อมกันทั้งประเทศไทย Uวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553U เวลา 18.00 น. ในรายการไทยโชว์ตอน “มีอะไรในกอไผ่”
ชมรายการย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/Thaishow

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

คมสันต์ สุทนต์พิธีกรไทยโชว์ เชิญชม “หุ่นกระบอกโบราณ คณะแม่ชะเวง นครสวรรค์”


ข่าวประชาสัมพันธ์ไทยโชว์
คมสันต์ ไทยโชว์ เชิญชม “หุ่นกระบอกโบราณ คณะแม่ชะเวง นครสวรรค์” อาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์นี้


รายการไทยโชว์ได้เสาะหาการแสดงหุ่นกระบอกโบราณ นครสวรรค์ที่หาชมได้ยาก โดยคนร้องและคนเชิดเป็นคนเดียวกัน ดำเนินเรื่องแบบละครพื้นบ้านต่างจากหุ่นพระนคร ตัวหุ่นมีความสวยงามสไตล์พื้นบ้านสันนิษฐานว่าเป็นหุ่นกระบอกคณะแรกของเมืองไทย ที่มีประวัติสืบทอดมาแต่สมัยรัชกาลที่ 5 ประมาณร้อยกว่าปี โดยนายเหน่ง เป็นเจ้าของหุ่น และได้ถ่ายทอดให้แก่ลูกแล้วส่งต่อมาถึงรุ่นหลานในปัจจุบันนั่นคือ คุณยายเชวง อ่อนละม้ายวัยแปดสิบปีเต็ม

คมสันต์ สุทนต์ ผู้ดำเนินรายการไทยโชว์ เล่าให้ฟังว่า

“ก่อนนหน้านั้นรายการไทยโชว์ได้เคยนำเสนอหุ่นกระบอกอีสานเพชรหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น,หุ่นกระบอกบ้านตุ๊กกะตุ่น, หุ่นสายเสมาและหุ่นช่างฟ้อนโจหน่าไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับกระแสเสียงตอบรับเป็นอย่างดี สำหรับคนชอบหุ่นโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่อยากจะเห็นหุ่นไทยในรูปแบบต่างๆ...
หุ่นกระบอกของคุณยายชะเวง อ่อนละม้ายก็ถือว่าเป็นหุ่นกระบอกคณะหนึ่งที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในท้องถิ่นภาคกลาง ตัวหุ่นยังคงอนุรักษ์ไว้ให้เป็นแบบเดิมๆมีความสวยงามอย่างพื้นบ้าน และยังคงรูปแบบการเชิดการร้องเล่นเป็นแบบโบราณไว้ทั้งหมด”

คมสันต์ สุทนต์ เล่าประวัติความเป็นมาของคณะหุ่นกระบอกนี้ต่อว่า

“หุ่นกระบอกคณะแม่เชวง อ่อนละม้าย” เริ่มใช้ชื่อนี้ตั้งแต่เมื่อคราวไปแสดงที่ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในงานมหรสพหุ่นไทย เมื่อปีพุทธศักราช 2535 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย
หุ่นกระบอกคณะแม่เชวง จะเล่นในทุกโอกาสและแสดงมาแล้วเกือบทุกจังหวัด ทั้งงานพิธี และทั่วไป เรื่องที่แสดงส่วนใหญ่จะเป็นพระอภัยมณี เป็นอันดับแรก เรื่องอื่นๆ ได้แก่ ขุนช้างขุนแผน แก้วหน้าม้า สังข์ทอง เป็นต้น
คุณยายชะเวงเริ่มเล่นหุ่นตั้งแต่อายุ 14 ปี ติดสอยห้อยตามคณะไปซ้อมไปเล่น และแม่ละออง กลั่นเขตต์กิจ ก็สั่งสอนให้บ้างแต่ที่ได้เป็นจริงเป็นจัง จนได้เล่นคู่กันตลอดต้องคือแม่บุญช่วย โดยครั้งแรก ๆ นั้นได้เชิดพวกตัวประกอบและเป็นลูกคู่ เมื่อมีฝีมือมากขึ้นจึงได้เชิดตัวพระ ตัวนางได้ฝึกการร้อง พากย์ เจรจา ประกอบการเชิดจนสามารถจำกระบวนการแสดงได้ครบถ้วนก่อนอายุ ๒๐ ปี....”
พลาดไม่ได้รายการไทยโชว์ ตอน “หุ่นกระบอกโบราณ คณะแม่เชวง นครสวรรค์” วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 18.00 น. นำเสนอความสนุกสนานในเรื่องพระอภัยมณี “ตอนหนีนางผีเสื้อ”
ตัวอย่างบทร้องช่วงสำคัญในตอนนี้
“หยิบปี่ที่อาจารย์ประทานให้ หมายจะเป่าให้ฝนหาย ด้วยทันทีเอย..
แล้วเป่าเปิดเสียเอกวิเวกหวาน นางมารก็แดดิ้นสิ้นชีวาเอย..”
ชมรายการย้อนหลังได้ทาง www.thaipbs.or.th/Thaishow